อัปเกรด PHP ใน XAMPP: วิธีที่ง่ายที่สุด
หลายท่านที่ใช้ XAMPP ในการพัฒนาเว็บไซต์ อาจเคยประสบปัญหาเรื่อง PHP เวอร์ชันเก่า และต้องการอัปเกรดให้เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น บทความนี้จะนำเสนอ วิธีที่ง่ายที่สุด ในการอัปเกรด PHP ใน XAMPP ของคุณ โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งใหม่ทั้งหมด
ขั้นตอนการอัปเกรด PHP ใน XAMPP
การอัปเกรด PHP ด้วยวิธีนี้ ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงไม่กี่ขั้นตอนง่ายๆ คุณก็สามารถใช้งาน PHP เวอร์ชันล่าสุดได้ทันที:
ดาวน์โหลด XAMPP เวอร์ชันพกพา (Portable Version) ล่าสุด:
อันดับแรก ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ทางการของ Apache Friends (ผู้พัฒนา XAMPP) และดาวน์โหลด XAMPP เวอร์ชันพกพา (ไฟล์ .zip) ที่มี PHP เวอร์ชันล่าสุดที่คุณต้องการ ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องติดตั้งใหม่ทั้งหมด เพราะเราจะใช้เพียงแค่บางส่วนของมันเท่านั้น
แตกไฟล์ XAMPP ที่ดาวน์โหลดมา:
หลังจากดาวน์โหลดเสร็จสิ้น ให้แตกไฟล์ .zip ที่ได้มา ไปยังตำแหน่งใดก็ได้ ที่ไม่ใช่ โฟลเดอร์ XAMPP ที่คุณติดตั้งใช้งานอยู่ปัจจุบัน เพื่อป้องกันการทับซ้อนของข้อมูล
คัดลอกโฟลเดอร์ PHP:
เมื่อแตกไฟล์เรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปในโฟลเดอร์ XAMPP ที่แตกออกมา แล้วค้นหาโฟลเดอร์ชื่อ "php" จากนั้นให้คัดลอกโฟลเดอร์ "php" นี้ไว้
สำรองข้อมูลโฟลเดอร์ PHP เดิม:
ก่อนที่จะวางโฟลเดอร์ PHP ใหม่ลงไป สิ่งสำคัญคือต้องสำรองข้อมูลโฟลเดอร์ PHP เดิมที่อยู่ในไดเรกทอรีการติดตั้ง XAMPP ของคุณ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ "php" เดิม ให้เป็นอย่างอื่น เช่น "php-old" หรือ "php-เวอร์ชันเดิม" เพื่อเก็บไว้ในกรณีที่เกิดปัญหา หรือต้องการย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันเก่า
วางโฟลเดอร์ PHP ใหม่:
นำโฟลเดอร์ "php" ที่คุณคัดลอกมาจาก XAMPP เวอร์ชันพกพา มาวางทับลงในไดเรกทอรีการติดตั้ง XAMPP ของคุณ (ตำแหน่งเดียวกับโฟลเดอร์ "php-old" ที่คุณเปลี่ยนชื่อไปเมื่อสักครู่)
จัดการไฟล์ php.ini (หากมีการแก้ไขค่าเริ่มต้น):
หากคุณเคยปรับแต่งค่าต่างๆ ในไฟล์ "php.ini" ของ PHP เวอร์ชันเดิม (เช่น การตั้งค่า memory_limit, upload_max_filesize หรือส่วนขยายอื่นๆ) คุณจะต้องนำไฟล์ "php.ini" เดิมของคุณที่ได้สำรองไว้ (ในโฟลเดอร์ "php-old") มาวางทับไฟล์ "php.ini" ในโฟลเดอร์ PHP ใหม่ที่คุณเพิ่งวางไป มิฉะนั้น ค่าที่คุณเคยตั้งไว้จะหายไป และอาจส่งผลต่อการทำงานของเว็บไซต์ของคุณได้
เริ่มต้น/รีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์:
เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ให้เปิด XAMPP Control Panel ขึ้นมา แล้ว หยุด (Stop) และ เริ่มต้น (Start) เซิร์ฟเวอร์ Apache และ MySQL ใหม่อีกครั้ง หรือจะเลือก รีสตาร์ท (Restart) ทั้งหมดก็ได้
เพียงเท่านี้ XAMPP ของคุณก็จะรัน PHP เวอร์ชันล่าสุดที่คุณได้อัปเกรดเรียบร้อยแล้ว ลองตรวจสอบเวอร์ชัน PHP โดยการสร้างไฟล์ .php
ง่ายๆ ที่มีโค้ด <?php phpinfo(); ?>
แล้วเรียกดูผ่านเบราว์เซอร์ เพื่อยืนยันว่าการอัปเกรดสำเร็จ!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้การอัปเกรด PHP ใน XAMPP ของคุณเป็นเรื่องง่ายและราบรื่นขึ้นนะครับ! หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาใดๆ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้เสมอครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น