โฆษณา: ต้นตอความไม่พอใจในยุคดิจิทัล?

โฆษณา: มากกว่าแค่การขาย...แต่เป็นปัจจัยที่ซ่อนเร้นของความไม่พอใจ

ในยุคที่โฆษณาผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ, เว็บไซต์ที่คุณเข้าชม หรือแม้แต่ในโซเชียลมีเดียที่คุณใช้ชีวิตประจำวัน หลายคนอาจมองข้ามผลกระทบที่ลึกซึ้งกว่าการกระตุ้นให้ซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว บทความนี้จะพาทุกท่านไปสำรวจมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับโฆษณาในฐานะปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลต่อความรู้สึกไม่พอใจในชีวิตประจำวันของเรา

จากงานวิจัยที่น่าสนใจซึ่งตีพิมพ์ในปี 2019 (Advertising as a major source of human dissatisfaction) ได้ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่ซับซ้อนระหว่างโฆษณาและความรู้สึกไม่พึงพอใจในชีวิตของมนุษย์ งานวิจัยชิ้นนี้ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่แค่การวิพากษ์วิจารณ์โฆษณาในแง่ของการหลอกลวงหรือการโฆษณาเกินจริงเท่านั้น แต่เจาะลึกลงไปถึงผลกระทบทางจิตวิทยาและสังคมที่โฆษณามีต่อความสุขและความพึงพอใจในชีวิต

โฆษณา: สร้างความต้องการที่ไม่สิ้นสุดและเปรียบเทียบที่ไม่จบสิ้น

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่งานวิจัยชิ้นนี้เน้นย้ำคือ โฆษณาสร้างความต้องการที่ไม่สิ้นสุด การโฆษณาพยายามนำเสนอภาพลักษณ์ของชีวิตที่สมบูรณ์แบบ, ความสุขที่หาได้ง่ายดายผ่านการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ เมื่อผู้บริโภคได้รับข้อมูลเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง พวกเขาอาจเริ่มเปรียบเทียบชีวิตของตนเองกับภาพที่โฆษณาเหล่านั้นสร้างขึ้น ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกขาดแคลน, ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี และความต้องการที่จะไขว่คว้าหาสิ่งที่โฆษณาบอกว่าเป็น “สิ่งจำเป็น”

นอกจากนี้ โฆษณายังกระตุ้นให้เกิดการ เปรียบเทียบทางสังคม อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบฐานะ, รูปลักษณ์ภายนอก หรือความสำเร็จในชีวิต การเห็นโฆษณาที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จและความสุข อาจทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าตนเองยังขาดบางสิ่งบางอย่าง หรือยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกไม่มั่นคงในตัวเองและลดทอนความพึงพอใจในชีวิต

ผลกระทบต่อจิตใจและพฤติกรรมผู้บริโภค

  • ความเครียดและความวิตกกังวล: การพยายามตามให้ทันเทรนด์, สินค้าใหม่ๆ และภาพลักษณ์ที่โฆษณาสร้างขึ้น อาจนำไปสู่ความเครียดและความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเงิน, การใช้ชีวิต และความสัมพันธ์
  • การบริโภคที่มากเกินไป: โฆษณากระตุ้นให้เกิดการบริโภคที่มากเกินความจำเป็น ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพทางการเงิน, สิ่งแวดล้อม และความสัมพันธ์ส่วนตัว
  • การลดคุณค่าในตนเอง: การเปรียบเทียบตัวเองกับภาพลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้นในโฆษณา อาจทำให้เกิดความรู้สึกด้อยค่า, ไม่มั่นใจในตนเอง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต

โฆษณาในยุคดิจิทัล: ความท้าทายที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

ในยุคดิจิทัล, โฆษณาได้พัฒนาไปสู่รูปแบบที่ซับซ้อนและแนบเนียนยิ่งขึ้น การโฆษณาแบบ Personalized ที่ใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภคเพื่อกำหนดเป้าหมาย ทำให้โฆษณาเข้าถึงและมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้, โฆษณาแฝง, Influencer Marketing และ Native Advertising ยังทำให้เส้นแบ่งระหว่างโฆษณาและความเป็นจริงพร่ามัวลง

วิธีรับมือกับผลกระทบของโฆษณา

การตระหนักถึงอิทธิพลของโฆษณาเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

  • ตั้งคำถาม: ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการใดๆ ให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ฉันต้องการสิ่งนี้จริงๆ หรือเพียงเพราะฉันเห็นโฆษณา”
  • จำกัดการรับชม: ลดการรับชมโฆษณาให้น้อยลง โดยใช้ Ad Blocker, หลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่มีโฆษณามากเกินไป และลดการใช้เวลาบนโซเชียลมีเดีย
  • สร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด: พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์, ตระหนักถึงกลยุทธ์ทางการตลาด และฝึกฝนการใช้ชีวิตอย่างมีสติ
  • ให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีคุณค่า: มุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์, สุขภาพ, การเรียนรู้ และกิจกรรมที่ทำให้คุณมีความสุขอย่างแท้จริง

ในท้ายที่สุด, การทำความเข้าใจถึงบทบาทของโฆษณาในชีวิตประจำวันของเรา จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด, ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และไม่ตกเป็นเหยื่อของกลยุทธ์ทางการตลาดที่อาจส่งผลเสียต่อความสุขของเรา



ที่มา: Hacker News (Front)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Get in Touch

Feel free to drop us a line to contact us

Name*


Message*


  • Phone+66989954998
  • Address380/4, Ban Rop Mueang, Tambon Rop Mueang, Mueang Roi Et District, Roi Et Province 45000, Thailand
  • Emailjuttupronb@gmail.com

Pages